ชนาธิป สรงกระสินธ์ หรือฉายา แมสซี เจ เขาเกิดที่ตลาดสามพราน อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม พ่อชื่อ ก้องภพ สรงกระสินธ์ และพ่อของเขาก็ปลูกฝังเทคนิคฟุตบอลให้เขาตอนอายุได้ 4 ขวบ และเล่นฟุตบอลอย่างจริงจังในขณะอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร ต่อมาพ่อได้มีการย้ายที่ทำงานเจเองจึงต้องย้ายมาเรียนที่โรงเรียนเพ็ญสมิทธิ์ในระดับ ป.5 หลังจบชั้นประถม ในช่วงมัธยมศึกษาตอนต้นเขาเลือกที่จะมาศึกษาต่อในโรงเรียนสามพรานวิทยา และในช่วงนั้นเขาก็มีโอกาสได้เล่นฟุตบอลเดินสายกับทีม ซีแอล ไฮสปีด ทีมฟุตบอลชื่อดังในจังหวัดนครปฐม หนึ่งนักเตะในทีมคือ รัชพล นาวันโน ที่ปัจจุบันกลายเป็นนักเตะทีมชาติไทยอีกคนหนึ่ง
เมื่อเขาสำเร็จการศึกษาในระดับ ม.ต้น ชนาธิป ตัดสินใจมาศึกษาต่อที่วิทยาลัยเทคโนโลยีพาณิชยการราชดำเนิน (สาขาการตลาด) และเขายังเป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนอีกด้วย และยังมีส่วนช่วยให้สถาบันของเขาได้ถือถ้วยพระราชทาน โดยได้แชมป์ฟุตบอลนักเรียนกรมพลศึกษารุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ประเภท ก. ในช่วงเดือน มกราคม ปี 2554
สโมสรที่ ชนาธิป มีโอกาสได้ร่วมทีม
บีอีซี เทโรศาสน
ในช่วงที่ ชนาธิป ยังคงลงเล่นในนามของโรงเรียน เจ้าตัวเคยถูกสโมสร ทีโอที ปฏิเสธที่จะเซ็นสัญญาร่วมทีมกัน ด้วยเหตุผลที่ว่ารูปร่างของเขาตัวเล็กเกินไปไม่เหมาะสมกับอาชีพนักฟุตบอล หลังจากนั้น ที่บีอีซี เทโรศาสน มองเห็นถึงความสามารถของเขาจึงดึงเขามาร่วมทีมในชุดเยาวชนของสโมสร โดยให้ค่าตัวเดือนละ 10,000 บาท
ในช่วงนั้น ชนาธิป ประจำอยู่ในชุดเยาวชน U-19 ของสโมสร และในครั้งนั้นเขาได้พาทีมของเขาคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ 2011 ได้สำเร็จอีกด้วย ในนัดชิงครั้งนั้นเขาต้องชิงกับทีมเยาวชน U-19 ของบุรีรัมย์ พีอีเอ เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 ที่สนามศุภชลาศัย จบสกอร์ 5-2 และเจ้าตัวยังได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ หลังจบเกม
ในช่วงนั้นเขาโชวฟอร์ได้ดีมากๆขณะที่อยู่ในทีมเยาวชนของบีอีซี เทโรศาสน ส่งผลให้ในช่วงเดือน ตุลาคม พ.ศ. 2554 เขาทาบทามจากนาย สมชาย ชวยบุญชุม ผู้จัดการทีมชาติในชุดเยาวชน ดึงตัวเข้าไปร่วมทีมชาติไทยในชุดเยาวชน 19 ปี แข่งขันในรอบคัดเลือกของฟุตบอลเอเชียเยาวชนอายุไม่เกิน 19 ปี ปี 2012 ในรายการนั้นทีมชาติไทยได้มีโอกาสได้แชมป์กลุ่มและผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งในรอบคัดเลือกนี้ ชนาธิป ได้มีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงและยังเป็นผู้ทำประตูได้ 1 ลูก ในศึกที่ถล่มเยาวชนทีมชาติ กวม ไปถึง 13-0 ที่สนามเทพหัสดินของ เมืองทอง ยูไนเต็ด
เมืองทอง ยูไนเต็ด
ต่อมาในวันที่ 28 มกราคม 2559 ชนาธิป มีโอกาสได้เข้าร่วมทีมกับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ดในศึกไทยพรีเมียร์ลีกร่วมกับพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา และธนบูรณ์ เกศารัตน์ 2 นักเตะทีมชาติไทยชุดใหญ่ ซึ่งทั้งสามคนมาร่วมทีมเมืองทองด้วยสัญญาของการยืมตัวพร้อมตัวเลือกซื้อขาดจากบีอีซี เทโรศาสน ทันที
ชนาธิป ได้มีโอกาสลงสนามครั้งแรกในนาม เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2559 ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีกรอบคัดเลือกซึ่งเจอกับ ยะโฮร์ ดารุล ตะก์ซิม สโมสรจากมาเลเซีย และในครั้งนั้น ชนาธิป ถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม พาทีม เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ไทยลีกได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 4 จากผลงานดังกล่าวทำให้สโมสรดังของประเทศญี่ปุ่น คอนซาโดเล ซัปโปะโระ ได้ทาบทามเพื่อดึงตัว ชนาธิป ไปร่วมทีมด้วยสัญญายืมตัว
คอนซาโดเล ซัปโปะโระ
ในฤดูกาล 2560-เลก 2
ชนาธิป ก็ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับ คอนซาโดเล ซัปโปะโระ ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2559 ด้วยสัญญาการยืมตัวจากสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ซึ่ง ชนาธิป ได้ย้ายไปเล่นเจลีกเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560 และเริ่มเข้าร่วมทีมตั้งแต่เลก 2 ของฤดูกาล
คาวาซากิ ฟรอนตาเล
ในช่วงเดือน มกราคม ปี. 2565 ชนาธิป ได้ตัดสินใจในการย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรดังขอลญี่ปุ่นอีกทีมคือ คาวาซากิ ฟรอนตาเล ด้วยค่าตัวประมาณ 100 ล้านบาท ทำลายสถิติค่าตัวสูงที่สุดของเจลีกสำหรับการโอนย้ายภายในประเทศ